วันเสาร์ที่ 19 มกราคม พ.ศ. 2556

ต้นปีบ

ต้นปีบ


ชื่อพันธุ์ไม้ ปีบ
ชื่อสามัญ Cork Tree
ชื่อวิทยาศาสตร์ Millingtonia hortensis Linn. F
วงศ์ BIGNONIACEAE
ชื่ออื่น กาซะลอง กาดสะลอง ( ภาคเหนือ) , เต็กตองโพ่ (กะเหรี่ยง-กาญจนบุรี) , ปีบ (ภาคกลาง)
ไม้ยืนต้นขนาดกลาง สูง 5- 20 เมตร ทรงพุ่มโปร่ง ใบประกอบแบบขนนก 2-3 ชั้น เรียงตรงข้าม ใบย่อยรูปไข่แกมใบหอกกว้าง 1.5- 2.5 ซม. ยาว 3- 5 ซม. ขอบใบหยักห่างๆ ดอก (Flower) เป็น ดอกช่อ( inflorescence flower) แบบ panicle สีขาว กลิ่นหอม ออกรวมกันเป็น ช่อโตๆตามปลายกิ่ง แตกกิ่งก้านแผ่กว้าง แต่ละดอกมีรูปร่าง เป็นหลอดรูปแตรเรียวยาวถึง 6 ซ.ม. ปลายหลอดจะ แยกบานเป็น 5 แฉก แต่ละดอกจะมีเกสรผู้ 4 อันกับ หลอดท่อเกสรตัวเมีย 1 หลอด ยาวพ้นปากหลอดออก มาเล็กน้อย ตัวดอกห้อยลง ดอกจะบานในตอนกลางคืน พอเช้าดอกจะร่วงเกลื่อนใต้โคนต้น ฤดูดอก คือ ช่วงเดือน ม.ค. - มี.ค.
ผล ( fruit) เป็นผลเดี่ยว( simple fruit) ประเภท ผลแห้ง( dry fruit) แบบ legume เป็นฝักแบน ตรง หัวแหลม ท้ายแหลม ขนาด กว้าง 2 ซ.ม.ยาว 30 ซม. เป็นฝักแบน เมื่อแก่จะแตกเป็น 2 ซีก
เมล็ด( Seed) รูปร่างแบนๆบาง ๆ สีขาวและมี ครีบเป็นปีก เพื่อประโยชน์ในการปลิวไปตามลมได้ไกลๆ ขนาดรวมทั้งปีกประมาณ 1.3 x 2.5 ซม.เมล็ดมีปีก ก็จะบินไปร่วงหล่นที่อื่น เพื่องอกเป็นต้นใหม่ต่อไป
ประโยชน์ใช้สอย
ปลูกเป็นไม้ประดับ เพราะมีใบ และดอกสวย โดยนิยม ปลูกไว้ตามทางเข้าบ้าน หรือตามมุมบ้าน ดอกให้กลิ่นหอม ชื่นใจดี คนสมัยโบราณนิยมเก็บดอกปีบมามวนผสมบุหรี่ นัยว่า ให้รสชาติหอมชื่นใจ แต่ตามตำราสมุนไพร พื้นบ้านบอกว่า ดอกปีบมีฤทธิ์รักษาโรคหอบ หืด โดยให้มวนเป็นบุหรี่สูบ ใครที่เป็นโรคภูมิแพ้อยู่ ลองเก็บ ดอกปีบ มาใส่ขวดเล็กๆ (ขวดซุปไก่สกัดกำลังพอดี) วางประดับตามบ้าน เพราะจากการวิจัยพบว่า สารระเหยในดอกปีบมีฤทธิ์ขยายหลอดลมได้ และดีกว่าตัวยาที่ใช้ในยาแผนปัจจุบันบางตัวเสียอีก

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น